การเก็บน้ำผึ้งเป็นการทำร้ายผึ้งหรือไม่ ? คำตอบของคำถามนี้ ขึ้นอยู่กับวิธีเก็บน้ำผึ้ง
หากใช้วิธีจุดไฟไล่แล้วเก็บมาทั้งรัง ย่อมไม่ดีต่อผึ้งแน่นอน
เหตุผลที่หนึ่งคือ ตัวอ่อนในรังจะถูกทำลาย (ผึ้งมิ้มขนาดกลางอาจมีตัวอ่อนถึง 7,200 ตัว ส่วนผึ้งหลวงรังใหญ่ๆ ก็อาจมีนับหมื่น)
เหตุผลที่สองคือ ผึ้งจะไม่เหลือทรัพยากรตั้งต้นสำหรับสร้างรังใหม่เลย เพราะปกติแล้วเมื่อผึ้งจะย้ายรัง มันจะแพ็คและกินน้ำผึ้งกับเกสรที่เก็บในรังเก่าให้หมดและนำไขผึ้งจากรังเดิมไปใช้สร้างรังใหม่ด้วย ดังนั้น เมื่อเราเก็บไปทั้งรัง ผึ้งก็ต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ ซึ่งถ้าหากฤดูนั้นอาหารไม่พอ รังนั้นก็อาจล่มสลายไปเลยก็ได้
เหตุผลที่สามคือ ผึ้งที่จะผลิตไขผึ้งเพื่อสร้างรังได้ ต้องเป็นผึ้งที่อายุน้อยเท่านั้น เพราะในผึ้งแก่ๆ ต่อมไขผึ้งจะไม่ทำงานแล้ว ซึ่งในสถานการณ์ที่ตัวอ่อนทั้งหมดของรังถูกทำลาย จึงอาจทำให้รังนั้นมีสมาชิกที่ผลิตไขผึ้งใหม่ได้ไม่มากพอที่จะสร้างรังให้สมบูรณ์
แต่นั่น ก็ไม่ได้แปลว่าเราควรต่อต้านการเก็บน้ำผึ้ง
ในทางตรงกันข้าม หากเราสนับสนุนน้ำผึ้งที่มาจากการเก็บด้วยวิธีที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อผึ้ง ก็อาจถือได้ว่าเป็นการช่วยผึ้งและระบบนิเวศไปในตัว เพราะเมื่อชาวบ้านได้รายได้เสริมที่น่าพอใจจากน้ำผึ้ง พวกเขาก็จะรักผึ้ง และมีแรงจูงใจในการรักษาผืนป่า เลิกใช้สารเคมี และปลูกพืชหลากหลายเพื่อเป็นแหล่งอาหารของผึ้ง
คำถามต่อมาก็คือ แล้วน้ำผึ้งแบบไหนคือน้ำผึ้งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อผึ้ง
คำตอบก็คือ น้ำผึ้งที่เก็บตามหลักการดังต่อไปนี้
วิธีการเก็บน้ำผึ้งที่ยั่งยืน
- ไม่เก็บน้ำผึ้งไปทั้งหมด แต่เหลืออย่างน้อย 30-40% ให้ผึ้งไว้ใช้เลี้ยงตัวอ่อนหรือเป็นอาหารสำรองยามขาดแคลน
- หลีกเลี่ยงการเก็บน้ำผึ้งช่วงฤดูฝนหรือช่วงหนาวจัด เนื่องจากวันที่ฝนตกหรือหนาวจัด ผึ้งมักไม่ออกหาอาหาร ทำให้ต้องใช้อาหารสำรองที่เก็บในรัง ซึ่งก็คือน้ำผึ้ง
- ไม่ทำร้ายตัวอ่อนหรือตัวเต็มวัย เช่น ไม่เก็บไปทั้งรัง เพราะตัวอ่อนที่บาดเจ็บจะกระตุ้นให้ผึ้งเครียด หรือถ้าจะย้ายรังจากธรรมชาติมาเลี้ยง ต้องรอให้ผึ้งงานที่บินออกไปหาอาหารกลับรังมาก่อนทั้งหมด มิเช่นนั้น ผึ้งงานเหล่านั้นเมื่อบินกลับมาที่รังก็จะหาบ้านไม่เจอ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะในการย้ายรังผึ้งคือ กลางคืน หรือแม้กระทั้งช่วงที่ฝนตกก็สามารถทำได้ เพราะผึ้งต้องอาศัยแสงในการออกหาอาหาร และจะหยุดออกหาอาหารก่อนที่ฝนกำลังจะตก
- ไม่ใช้สารเคมีในพื้นที่
วิธีเก็บน้ำผึ้งป่า โดยไม่เก็บไปทั้งรัง
สำหรับผึ้งที่เลี้ยงในกล่อง มักไม่มีปัญหาในการเก็บน้ำผึ้งตามเงื่อนไขข้างต้น เนื่องจากกล่องเลี้ยงมักออกแบบมาให้เก็บเฉพาะน้ำผึ้งโดยไม่ทำร้ายตัวอ่อนอยู่แล้ว แต่ในการเก็บน้ำผึ้งป่า วิธีการจะซับซ้อนกว่าเล็กน้อย แต่ก็สามารถทำได้ เช่น
ผึ้งมิ้ม
ย้ายรังผึ้งมิ้มจากธรรมชาติมาอยู่บนคอนพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับเก็บน้ำผึ้งโดยเฉพาะ ซึ่งมาจากการคิดค้นของทีมวิจัยจากศูนย์วิจัยผึ้งพื้นเมืองและแมลงผสมเกสร (Bee Park) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (ราชบุรี)
โดยขั้นตอนทั้งหมด มีคร่าวๆ ดังนี้
- ปรับขาตั้งของคอนให้มีองศาและทิศทางเดียวกับรังเดิม
- รอช่วงกลางคืนให้ผึ้งงานที่ออกไปหาอาหารกลับมารังครบแล้ว ค่อยย้ายรังจากธรรมชาติให้มาอยู่บนคอนของเรา ซึ่งระหว่างนี้อาจทำการเก็บน้ำผึ้งครั้งแรก โดยกรีดตามแนวนอนส่วนนูนๆ ด้านบนของรัง โดยเหลือน้ำผึ้งให้ผึ้งประมาณ 30 – 40%
- นำรังผึ้งไปหนีบหรือแขวนไว้กับคอนใหม่ คอนผ่าครึ่ง (Semi comb) ซึ่งผึ้งจะสร้างไขผึ้งมาหุ้มจนรังเชื่อมติดกับคอน จากนั้นก็นำตัวหนีบออกได้
- เมื่อถึงรอบเก็บน้ำผึ้งครั้งถัดไป ก็แค่ใช้มีดรูดไปตามร่องแนวนอนระหว่างคอนผ่าครึ่ง (Semi comb) เราจะได้น้ำผึ้งจากคอนซีกบนประมาณ 60-70 % และเหลืออีก 30-40 % ติดอยู่กับคอนซีกล่างไว้ให้ผึ้งกินและพยุงรังผึ้งไว้โดยไม่ทำลายส่วนอื่นของรัง ซึ่งสามารถเก็บต่อเนื่องได้อีกหลายรอบ
ผึ้งหลวง
ผึ้งหลวงจะเลี้ยงยากกว่ามาก ส่วนใหญ่จึงมักเก็บจากธรรมชาติ โดยกรีดเฉพาะส่วนน้ำผึ้งในองศาที่จะทำให้รังไม่ร่วงลงมา และเหลือน้ำผึ้งบางส่วนไว้ให้ผึ้งด้วย
ส่วนในป่าที่สมบูรณ์มากๆ เราอาจล่อให้ผึ้งมาสร้างรังในจุดที่ต้องการได้ โดยหาวัสดุที่ผึ้งชอบไปติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม
ผึ้งโพรง
หลายชนิดสามารถเลี้ยงในกล่อง ซึ่งจะมีแผงสำหรับน้ำผึ้งโดยเฉพาะ

ชันโรง
หลายชนิดสามารถเลี้ยงในกล่องเช่นกัน แต่ปัญหาของวิธีเลี้ยงเดิมคือ โครงสร้างของรังทำให้เมื่อผู้เลี้ยงกรีดถ้วยน้ำหวาน จะทำให้น้ำหวานไหลเยิ้มลงไปด้านล่างของรัง และมีตัวอ่อนหรือตัวเต็มวัยบางส่วนจมน้ำผึ้งตาย
ทางศูนย์วิจัย BeePark จึงคิดค้นเทคนิคใหม่ คือเทคนิครังสองชั้น ที่ชั้นบนจะมีขวดคว่ำอยู่ เมื่อชันโรงขยายประชากรสร้างตัวอ่อน ดักแด้ ถ้วยเกสร และถ้วยน้ำหวานชั้นล่างจนเต็มแล้ว ก็จะขยับขึ้นไปชั้นสองที่จะมีแต่ถ้วยน้ำหวานเท่านั้น ไม่มีตัวอ่อน
เมื่อเราจะเก็บน้ำหวาน ก็แค่หมุนขวดออกมา กรีดถ้วยเก็บน้ำหวาน คว่ำขวดลง น้ำหวานก็จะไหลออกโดยชันโรงยังปลอดภัย และยังใช้ถ้วยที่เอาน้ำหวานออกแล้วกลับมาใช้ต่อได้อีกด้วย ช่วยให้ผึ้งไม่ต้องสร้างถ้วยน้ำหวานใหม่ สามารถสะสมน้ำหวานต่อได้เลย



